อัพเดทราคาค่าตัวนักเตะ 10 อันดับ ในปี 2020

ถ้าพูดถึงนักกีฬาที่รวยระดับมหาเศษรฐีได้ หลายคนคงนึกถึงนักกีฬาฟุตบอลขึ้นมาอยู่ในชนิดกีฬาระดับต้นๆ เลย ก็แหงล่ะ เพราะในตลาดนักเตะ มีการซื้อขายตัวนักเตะกัน เป็น หลายล้าน ยูโร เลยทีเดียว จะไม่ให้รวยได้ยังไง และในปีนี้ ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายทีมกันวุ่นวายไปหมด วันนี้เราจึงจะมาอัพเดท ราคาค่าตัวนักเตะ 10 อันดับ ที่แพงที่สุดของปีนี้ มาให้ได้อ่านกัน

โดยในแต่ละปีจำนวนเงินที่ใช้ไปกับผู้เล่นดูเหมือนจะเพิ่มสูงขึ้นซึ่งมีปัจจัยการประเมินมาจากการผันผวนหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นอายุ, ความสำคัญของผู้เล่นที่มีให้กับสโมสร

อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีว่าการระบาดของโควิด-19 ในปีนี้จะส่งผลกระทบทางด้านการเงินกับแต่ละสโมสร แต่เชื่อว่าในช่วงซัมเมอร์นี้ นักเตะระดับบิ๊กเนม ก็น่าจะมีการย้ายเกิดขึ้น เราไปดูกันว่า Transfermarkt ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เชี่ยวชาญเรื่องการประเมินมูลค่าสโมสรและนักฟุตบอลทั่วโลกที่ได้รับความเชื่อถือในวงกว้าง ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของ ราคาค่าตัวนักเตะ มูลค่าผู้เล่นชั้นนำของโลก ไว้อยู่ที่เท่าไรกันบ้าง

10. เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล)

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล)

เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ขึ้นแท่นเป็นแบ็กขวาที่ดีที่สุดในโลกไปแบบไร้ที่ติสำหรับดาวเตะวัย 21 ปี โดยดาวเตะที่เติบโตมาจาก อะคาเดมี หงส์แดง มีส่วนช่วยลิเวอร์พูล กวาดไปถึง 4 แชมป์ ใน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา จนมูลค่าขยับไปสูงถึง 99 ล้านปอนด์ (3,960 ล้านบาท)

อาร์โนลด์เกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 1998 (พ.ศ. 2541) เป็นชาวเมืองลิเวอร์พูลโดยกำเนิด เขาเกิดในย่านเวสต์ดาร์บีซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามเมลวุด สนามฝึกซ้อมของสโมสรลิเวอร์พูล

ฤดูกาล 2019-20

ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 เจอกับ เชลซี แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2018–19 ที่สนามโวดาโฟนพาร์ก, อิสตันบูล ประเทศตุรกี สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 5-4 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ

ต่อมา ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 อาร์โนลด์ลงสนามให้กับลิเวอร์พูลนัดที่ 100 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตันวิลลา ที่วิลลาพาร์ก 2-1 ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ ฟลาเม็งกู ตัวแทน คอนเมบอล ในฐานะแชมป์เก่าของ โกปาลิเบร์ตาโดเรส ที่สนามกีฬาแห่งชาติคาลิฟา ในโดฮา, ประเทศกาตาร์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟลาเม็งกู ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก สมัยแรกได้สำเร็จ

ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2019 อาร์โนลด์ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ เลสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม 4-0 ด้วยผลงานยอดเยี่ยมทำให้ อาร์โนลด์ได้รางวัลผู้เล่นยอดเยื่ยมประจำเดือนธันวาคมของพรีเมียร์ลีก

ในวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2020 อาร์โนลด์ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 4-0 ต่อมา ในวันที่ 22 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 อาร์โนลด์ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชลซี 5-3 และฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 ที่แอนฟีลด์ส่งท้าย

9. ลิโอเนล เมสซี (บาร์เซโลนา)

ลิโอเนล เมสซี (บาร์เซโลนา)

เป็นหนึ่งในแข้งที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลของโลก ล่าสุดเพิ่งเป็นข่าวขอขึ้นบัญชีย้าย หลังจากทีมแพ้ บาเยิร์น มิวนิก 2-8 ตกรอบรองฯ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก แบบน่าอับอาย โดยเวลานี้เจ้าของบัลลงดอร์ 6 สมัย แม้อายุจะมากถึง 33 ปี แต่มูลค่าที่ถูกประเมินไว้นั้นอยู่ที่ 100.8 ล้านปอนด์ (4,032 ล้านบาท)

ปัจจุบัน เมสซิ เป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลให้กับทีมชาติอาร์เจนตินา เขาเล่นให้กับทีมชาติครั้งแรกในรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ยังอยู่ในชุดชนะเลิศถ้วยฟุตบอลโลกเยาวชนอายุไม่เกิน 20 ปี.ในปี 2005 โดยเป็นผู้ทำประตูสูงสุดถึง 6 ประตู รวมถึง 2 ประตูในนัดชิงชนะเลิศ และได้รับรางวัลโกลเดนบอลหรือผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำรายการแข่งขัน หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติอาร์เจนตินา ชุดใหญ่ และในปี ค.ศ. 2006 เขาเป็นนักฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนตินาที่อายุน้อยที่สุดที่เล่นในฟุตบอลโลก

ในปีถัดมาเขายังพาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศโกปาอาเมริกา เขาได้รางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมอีกด้วย และในปี ค.ศ. 2008 เขาได้รับเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ที่ปักกิ่ง, ในปี 2014 เมสซินำทีมชาติอาร์เจนตินาเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกกับทีมชาติเยอรมัน แต่แพ้ไป 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ เมสซิได้รับรางวัลโกลเดนบอลและผู้เล่นทรงคุณค่าของรายการแข่งขันด้วย, และในช่วงเวลาต่อมาเข้ายังพาทีมผ่านเข้าชิงชนะเลิศโกปาอาเมริกาถึง 2 ครั้งในปี 2015 และ 2016 ซึ่งแพ้ให้กับชิลี ทั้ง 2 ครั้ง

8. เจดอน ซานโช (ดอร์ทมุนด์) 

เจดอน ซานโช (ดอร์ทมุนด์)

เป้าหมายนัมเบอร์วันของ แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกประเมินค่าตัวไว้อยู่ที่ 105.3 ล้านปอนด์ (4,212 ล้านบาท) แต่ถึงเวลานี้ ดอร์ทมุนด์ ก็ยังไม่แสดงทีท่าที่ชัดเจนว่าสุดท้ายจะทำอย่างไรกับแนวรุกทีมชาติอังกฤษวัย 20 ปี

7. เควิน เดอ บรอยน์

เควิน เดอ บรอยน์

แนวรุกทีมชาติเบลเยียม ที่เพิ่งคว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019-2020 จากโวล์ฟสบวร์ก มาอยู่ เมื่อปี 2015 ด้วยค่าตัว 55 ล้านปอนด์ แต่เวลานี้ค่าตัวถีบขึ้นไปแล้วอยู่ที่ 2 เท่า อยู่ที่ 108 ล้านปอนด์ (4,320 ล้านบาท)

ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถนำทีมป้องกันแชมป์ลีก 3 สมัยติดต่อกันได้ แต่กองกลางวัย 29 ปีกลับมาทำผลงานได้อย่างสุดยอดในฤดูกาลนี้ โดยทำไป 13 ประตูในพรีเมียร์ลีก และแอสซิสต์อีกถึง 20 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลเท่ากับที่ เธียร์รี อองรี เคยทำไว้ในปีเดียวในฤดูกาล 2002-03

เดอ บรอยน์ ยังเป็นนักเตะชาวเบลเยียมคนที่ 3 ในรอบ 9 ฤดูกาลหลังสุดที่ได้รางวัลนี้ ซึ่งตัดสินจากการโหวตที่เปิดกว้างผ่านเว็บไซต์ของ EA Sports บริษัทเกมชื่อดัง ที่จะพิจารณาร่วมกับกัปตันทีม 20 สโมสรและคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

สำหรับรางวัลอื่นที่มีการประกาศมาก่อนหน้านี้ ได้แก่ รางวัลนักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี ที่ตกเป็นของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาดาวรุ่งของลิเวอร์พูล และรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี ที่ตกเป็นของ เจอร์เกน คล็อปป์ ที่นำ ‘หงส์แดง’ ล้างอาถรรพ์คว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ

6. แฮร์รี เคน (สเปอร์ส)

แฮร์รี เคน (สเปอร์ส)

กองหน้าเบอร์หนึ่งทีมชาติอังกฤษ คนปัจจุบัน การันตีทำประตูให้ต้นสังกัด ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ไม่น้อยกว่า 24 ประตู ใน 6 ฤดูกาลที่ผ่านมา และนั่นจึงทำให้มูลค่าของดาวเตะคุณพ่อลูกสามวัย 27 ปี อยู่ที่ 108 ล้านปอนด์ (4,320 ล้านบาท)

แฮร์รี เคน เริ่มต้นจากการเป็นนักฟุตบอลเยาวชนชุดอายุไม่เกิน 7 ขวบ ของอาร์เซนอล[3]แต่ได้ย้ายออกมาหลังจากอยู่ได้ 2 ปี เนื่องจากถูกมองว่ามีรูปร่างเล็กเกินไป และย้ายไปอยู่กับริดจ์เวย์รอเจอส์ สโมสรระดับเล็ก ๆ ย่านลอนดอนเหนือละแวกเดียวกับที่ตั้งสนามและสโมสรของอาร์เซนอล

จนกระทั่งย้ายมาอยู่กับทอตนัมฮอตสเปอร์เมื่อปี ค.ศ. 2009 ในชุดอายุไม่เกิน 11 ปี และได้พัฒนาการเล่นขึ้นมาตามลำดับ โดยทำประตูไปได้ 22 ประตู จากการลงเล่นไปทั้งหมด 32 นัด ในชุดอายุไม่เกิน 18 ปี และจากนั้นก็ทำประตูได้อีก 10 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 16 นัด ในชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ก่อนที่จะมีโอกาสได้เล่นในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกกับรายการยูโรปาลีก กับ ฮาร์ทส์ เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2011

ก่อนหน้าที่เคนจะได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของทอตนัมฮอตสเปอร์ เคนได้ถูกปล่อยไปหาประสบการณ์กับ เรย์ตันโอเรียน แบบยืมตัวในช่วงต้นปี ค.ศ. 2011 และต่อมาก็ได้ย้ายไปแบบยืมตัวกับอีกหลายสโมสร

แฮร์รี เคน ได้กลับมาสู่ทีมชุดใหญ่ของทอตนัมฮอตสเปอร์อีกครั้ง ในเดือนเมษายน ในฤดูกาล 2013–14 โดยยิงได้ 12 ประตูจากทุกรายการที่ลงแข่งขัน

5. โมฮัมเหม็ด ซาลาห์

โมฮัมเหม็ด ซาลาห์

เป็นเพื่อนร่วมทีม มาเน อีกทั้งยังเป็นพาร์ตเนอร์ในเกมรุก ดาวเตะทีมชาติอียิปต์ มีค่าตัวทวีคูณเกือบ 3 เท่ากว่าตอนที่ย้ายจาก โรมา 108 ล้านปอนด์ (4,320 ล้านบาท) ซึ่งตอนนั้น ซาลาห์ ย้ายมาด้วยค่าตัวเพียง 36.9 ล้านปอนด์ (1,476 ล้านบาท) ในช่วงปลายเดือนมิถุนายนปี 2017

4. ซาดิโอ มาเน (ลิเวอร์พูล)

ซาดิโอ มาเน (ลิเวอร์พูล)

แนวรุกทีมชาติเซเนกัล ถูกประเมินค่าตัวไว้อยู่ที่ 108 ล้านปอนด์ (4,320 ล้านบาท) เวลานี้ มาเน ทำไปแล้ว 81 ประตูในทุกรายการให้กับ ลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ย้ายจาก เซาแธมป์ตัน มาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อปี 2016

ในวันที่ 2 มกราคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เชฟฟีลด์ยูไนเต็ด 2-0 ต่อมา ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 12 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นอริชซิตี ที่แคร์โรว์โรด 1-0 ต่อมา ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 13 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เวสต์แฮมยูไนเต็ด 3-2

ต่อมา ในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 14 ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ บอร์นมัท 2-1 ในวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 15 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 4-0 ต่อมา ในวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 16 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ แอสตันวิลลา 2-0

ต่อมา ในวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 17 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล พ่ายแพ้ อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์สเตเดียม 1-2 ต่อมา ในวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 มาเนทำประตูที่ 18 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ที่เซนต์เจมส์พาร์ก 3-1 จบฤดูกาล มาเนช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ

3. เนย์มาร์ (เปแอสเช)

เนย์มาร์ (เปแอสเช)

ยังคงเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์การโยกย้ายหลังย้ายมาจาก บาร์เซโลนา ด้วยค่าตัว 198 ล้านปอนด์ และเวลานี้ก็มีมูลค่าอยู่ที่ 115.2 ล้านปอนด์ (4,608 ล้านบาท) ตามการประเมินของ Transfermarkt

เนย์มาร์วันนี้ยอมรับที่จะเป็นผู้นำของเปแอสเชอย่างสมบูรณ์ และพร้อมที่จะพาทีมไปสู่ฝั่งฝันให้ได้กับตำแหน่งแชมป์ยุโรปที่เจ้าของสโมสรอย่างกลุ่ม QSI ปรารถนา และลงทุนมหาศาลกับทีมชุดนี้ โดยเฉพาะกับสตาร์ชาวบราซิลเจ้าของค่าตัว 200 ล้านปอนด์

ในเกมต่อมากับแอร์เบ ไลป์ซิก เป็นอีกครั้งที่เนย์มาร์วาดลวดลายในสนามอย่างสนุกสนาน การเล่นของเขาเพลิดเพลินชวนดู มีความเป็นนักเอ็นเตอร์เทนลูกหนังที่หาได้ยากยิ่งในเกมฟุตบอลยุคปัจจุบัน และที่สำคัญมีส่วนในการช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะอย่างเด็ดขาด 3-0

อย่างไรก็ดี การกลับมาครั้งนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาแห่งชัยชนะ เมื่อเขายังมีภารกิจแห่งชีวิตในการที่จะต้องนำเปแอสเชท้าดวลกับทีมที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเกมฟุตบอลเวลานี้อย่างบาเยิร์น มิวนิก จริงอยู่ที่เปแอสเชมีเขาเป็นผู้นำ มีความมหัศจรรย์อย่างเอ็มบัปเป้ มีผู้ปิดทองหลังพระอย่าง อังเคล ดิ มาเรีย

แต่บาเยิร์นก็มี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี, โธมัส มุลเลอร์, แซร์จ นาบรี เหมือนกัน และมีมากกว่าด้วยกับนักเตะอย่าง โจชัว คิมมิช, อัลฟอนโซ เดวีส์, ลีออน กอเร็ตซ์กา และ ติอาโก อัลคันทารา ถึงจะเป็นทีมในระดับ Elite เหมือนกัน แต่เปแอสเชเป็นรองบาเยิร์นอย่างชัดเจนบนหน้ากระดาษ

90 นาทีที่ ‘สนามแห่งแสง’ หรือเอสตาดิโอ ดา ลุซ สำหรับเนย์มาร์จึงเป็นเกมแห่งชีวิตที่เขาต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะพาทีมไปสู่ฝั่งฝันให้ได้ เพราะชัยชนะครั้งนี้จะเป็นการปลดเปลื้องตรวนแห่งความหวังที่ผู้คนต่างพันธนาการเขาเอาไว้ตลอดชีวิตด้วยเช่นกัน

2. ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนฯ ซิตี้)

ราฮีม สเตอร์ลิง (แมนฯ ซิตี้)

อดีตแข้งลิเวอร์พูล มีค่าตัวอยู่ที่ 115.2 ล้านปอนด์ (4,608 ล้านบาท) โดยถูกพัฒนาให้กลายมาเป็นผู้เล่นระดับท็อป ภายใต้กุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา

 ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เป็นนักเตะที่เริ่มต้นการเล่นฟุตบอลในสโมสรระดับเยาวชนครั้งแรกเมื่อ  200-2010 เล่นกับทีม ควีนส์พาร์กเรนเจอส์ เป็นระยะเวลา 10 ปี และได้เข้าร่วมเล่นกับทีมลิเวอร์พูล เมื่อปี 2010-2012 เป็นระยะเวลาสองปี  หลังจากนั้นได้ก้าวเข้าสู่การเป็นนักเตะระดับสโมสรมืออาชีพในการเล่นกับสโมสรในลีกอังกฤษ กับสโมสรลิเวอร์พูล เมื่อปี 2012-2015  โดยลงเล่นทั้งหมด 95 นัด จากนั้นไม่นานได้ย้ายทีมมาเล่นกับ แมนเชสเตอร์ซิตี้ เมื่อปี 2015และมีข้อกำหนดสัญญา 5 ปี  ซึ่งลงเล่นทั้งหมด 90 นัด เป็นนักเตะที่สร้างชื่อเสียงให้กับทีมและทักษะการเล่นเป็นที่ยอมรับและเป็นกลไกสำคัญของแมนเชสเตอร์ซิตี้

ปัจจุบันเล่นได้ทั้งในตำแหน่งปีก และกองกลางตัวรุกให้กับแมนเชสเตอร์ซิตี และทีมชาติอังกฤษ สเตอร์ลิงสร้างชื่อเสียงมากับลิเวอร์พูล โดยได้ลงเล่นเป็นตัวจริงกับลิเวอร์พูล ในปี ค.ศ. 2012 นัดที่เจอกับ วีแกนแอธเลติก โดยเล่นในตำแหน่งปีกซ้าย ด้วยอายุเพียงแค่ 17 ปี

1. คีเลียน เอ็มบัปเป (เปแอสเช)

คีเลียน เอ็มบัปเป (เปแอสเช)

ไม่น่าแปลกใจที่แนวรุกทีมชาติฝรั่งเศส วัย 21 ปี จะเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวมากที่สุดในโลกฟุตบอลโลกเวลานี้ ด้วยมูลค่า 162 ล้านปอนด์ (6,480 ล้านบาท) โดย เอ็มบัปเป เริ่มเป็นที่จับตาตั้งแต่เล่นให้โมนาโก ตอนอายุ 16 ปี ซึ่งการย้ายมาอยู่ในถิ่น ปาร์ก เดส์ แปร็งซ์ เป็นดาวรุ่งที่มีค่าตัวแพงที่สุด

นักฟุตบอลชาวฝรั่งเศส ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าให้กับสโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็งและทีมชาติฝรั่งเศส

เขาถูกพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีฝีเท้าติดอันดับโลก จากผลงานการจบสกอร์ การเลี้ยงลูกเข้ากรอบสังหารและความรวดเร็วในการเลี้ยงบอลของเขา นอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยิงประตูให้ฝรั่งเศสได้แชมป์ฟุตบอลโลกปี 2018 จากการเข้าชิงกับประเทศโครเอเชีย

กิลึยาน อึมบาเป เป็นนักเตะดาวรุ่งที่มีมูลค่าตัวสูงที่สุดในโลก ด้วยวัยเพียง 19 ปี ค่าตัวของเขาอยู่ที่ 216.7 ล้านยูโร จากสโมสรปารีสแซง-แฌร์แม็ง สัญญาของเขาจะหมดลงในช่วงปี 2020 จากการจัดอันดับโดย CIES football observatory

ราคาค่าตัวนักเตะ ของปีนี้ก็ยังคงทำเราอึ้งอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ ราคาค่าตัวนักเตะ ดังกล่าวก็ยังคงต้องลุ้นกันต่อไปว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกเร็วนี้หรือไม่ต้อรอติดตาม

9 หลักการ ต้องคำนึง ก่อนเปิดร้านเสริมสวย ธุรกิจร้านเสริมสวย เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับความนิยมตลอดกาล ไม่ว่าเศรษฐกิจจะขึ้นหรือลง หรือมีกระแสแรงขนาดไหน นั่นเพราะพฤติกรรม ของผู้หญิง ที่มีความรักสวยรักงามเป็นทุนเดิม

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : “เจ้าเบียว”ณัฐวุฒิ นักเตะทีมยักษ์ใหญ่ไทยลีก ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด